รีวิวหนัง Kraven the Hunter – ปิดฉากจักรวาลวายร้ายของไอ้แมงมุม

Kraven the Hunter หนังที่กลายมาเป็นผลงานปิดฉากจักรวาลวายร้ายของไอ้แมงมุม หลังจากที่สตูดิโอหนังตัดสินใจล้มโปรเจกต์อื่น ๆ และหันมาโฟกัสกับหนังไอ้แมงมุมหลักแทน นี่จึงเป็นหนังที่มาพร้อมกับความกดดันและภารกิจสำคัญ

🎭 เนื้อเรื่องและความเข้มข้น

หนังเล่าถึง เซอร์เก เครเวนนอฟ และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับพ่อของเขา ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่เส้นทางนักล่าแห่งความแค้น การผจญภัยของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายและเลือดเย็น แต่ก็นำไปสู่การค้นพบสัญชาตญาณที่แท้จริงของตัวเอง

ในขณะที่หนังพยายามทำให้เรื่องราวลึกซึ้งและมีน้ำหนัก แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเป็นโครงเรื่องที่ค่อนข้างคาดเดาได้ง่าย โดยเฉพาะในแง่ของพล็อตตัวร้ายที่ขาดความเข้มข้นและความสมเหตุสมผล

🎬 ทีมผู้สร้างและการกำกับ

ภาพยนตร์กำกับโดย เจ.ซี. แชนดอร์ ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกของเขาในการกำกับหนังจากคอมิกส์ แต่เขาก็สามารถถ่ายทอดความเป็นแอนตี้ฮีโร่ของ Kraven ออกมาได้อย่างสมจริง

บทภาพยนตร์ได้ทีมเขียนบทมากฝีมืออย่าง ริชาร์ด เว็งค์ (จาก The Equalizer) ร่วมกับ แมตต์ ฮอลโลเวย์ และ อาร์ต มาร์คัม (จาก Iron Man) ซึ่งพยายามสร้างโครงเรื่องที่แข็งแกร่ง แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่ยังขาดความสดใหม่และแปลกใหม่สำหรับยุคนี้

🔥 แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน แบกหนังทั้งเรื่อง

แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน มารับบทเป็น Kraven ได้อย่างน่าเชื่อถือ เขานำเสนอความแข็งแกร่งและด้านที่ลึกลับของตัวละครออกมาได้ดี แม้ว่าจะมีบางช่วงที่รู้สึกเหมือนการถ่ายแบบมากกว่าการแสดงจริงจัง

ขณะเดียวกัน นักแสดงสมทบอย่าง อารีอานา เดอโบส และ รัสเซลล์ โครว์ กลับไม่ได้มีบทบาทที่แข็งแกร่งพอ ทำให้ตัวละครของพวกเขาดูไม่มีพลังและไม่น่าจดจำมากพอที่จะสร้างความแตกต่างให้กับเรื่องราว

🤔 ปัญหาของ Kraven the Hunter

  • การเล่าเรื่องที่ดูเชยเหมือนหนังฮีโร่ยุค 2000s
  • บทภาพยนตร์ที่ขาดความแปลกใหม่
  • ตัวร้ายที่น่าจะมีพลังมากกว่านี้กลับถูกใช้เป็นตัวประกอบธรรมดา
  • เนื้อหาค่อนข้างยืดเยื้อไปกับการปูพื้นหลังของตัวละคร มากกว่าจะเร่งพัฒนาให้เนื้อเรื่องเดินหน้าไปอย่างมีพลัง

📌 บทสรุป

แม้ว่า Kraven the Hunter จะมีจุดแข็งในด้านการแสดงของ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน และฉากแอ็กชันที่พอให้ความบันเทิงได้ แต่ในภาพรวมแล้ว หนังกลับไม่ได้สร้างอะไรใหม่ให้กับแนวฮีโร่ และยังคงใช้สูตรเดิมที่คาดเดาได้ง่าย

หากคุณเป็นแฟนของตัวละคร Kraven ก็ควรลองชมเพื่อสัมผัสตัวละครนี้ในเวอร์ชันภาพยนตร์ แต่ถ้าคุณมองหาความสดใหม่ หนังเรื่องนี้อาจยังไม่ตอบโจทย์มากพอ